คุณค่าของความเป็นมนุษย์อยู่ที่การฝึกฝนตนเอง

      

คุณค่าของความเป็นมนุษย์อยู่ที่การฝึกฝนตนเอง

ช้างม้า วัวควาย จะเป็นประโยชน์ มีค่า มีราคา เพราะการนำมาฝึกฝนจนควรค่าแก่การงาน

        คนเราก็เหมือนกัน จะมีคุณค่า ก็ด้วยการหมั่นฝึกตนเองอย่างสม่ำเสมอ

      อยากรวย ต้องหมั่นหาสินค้ามาขาย

      อยากสวย ต้องต้องหมั่นเติมแต่งบุคลิก    ตนเองเสมอ

    อยากมีปัญญา ต้องหมั่นคิด หมั่นแสวงหาความรู้   อย่าหยุดนิ่ง

     อยากมีความสุขสบาย ต้องหมั่นขวนขวาญพัฒนาตนเองอยู่เสมอ 

     เหล่านี้คือหลักสากลที่ใครปฏิบัติอย่างไร ย่อมได้เช่นนั้น 

  ดังคำที่พุทธภาษิตว่า                                                      " บุคคลหว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น"

เข้าชมเวปไซต์ได้ที่ www.carbed58.blogspot.com

เฟสบุค  https://www.facebook.com/carbed45?ref=hl

เข้าชมเวปไซต์ได้ที่ www.carbed58.blogspot.com

เฟสบุค  https://www.facebook.com/carbed45?ref=hl

วิธีสสร้างกำลังใจให้สู้ต่อไป

วิธีสสร้างกำลังใจให้สู้ต่อไป

กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญคัญในการทำกิจการใดก็แล้วแต่หากใจไม่เอาใจท้อแท้ หมดหวัง ห่อเหี่ยวเสียแล้ว ทุกอย่างมันจบแล้ว

ชีวิตทุกคนมีอุปสรรคปัญหาเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน งาน การใช้ชีวิต ความรัก มักเจอปัญหาเหล่านี้ทั้งสิ้น แต่เราจะมีวิธีบริหารจัดการมันอย่างไร

สำหรับเทคนิคที่เราจะสร้างกำลังใจให้ลุกขึ้นสู้กับโชคชะตาชีวิตนั้นมีหลากหลายวิธีเช่น

1. เมื่อเรารู้สึกท้อแท้ คิดมาก หมดหวัง กับสิ่งใดก็แล้วแต่ ให้พึงระลึกอยู่เสมอว่า ชีวิตเราต้องสู้ต่อไปอย่าท้อแท้นะ เรายังไม่ได้รับชัยชนะ มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้น หมั่นบอกตัวเองว่า เราต้องสู้เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าวันนี้

2. นั่งขัดสมาธิ หายใจเข้าลึกๆเต็มปอด 100 ครัง พร้อมปลุกพลังใจใต้สำนึกโดยให้นึกในใจว่า ต้องสู้ เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า เราต้องมีกำลังใจสู้ต่อไป

3. หมั่นสวดมนต์ ในบทสวดมนต์ที่เราท่องได้ หรือหาหนังสือสวดมนต์มาสักเล่ม แล้วสวดมนต์ บทสวดมนต์ที่ดีที่สุดสำหรับเติมเต็มกำลังใจ เพื่อให้เราชนะหมู่มารที่มารัง

ควาญให้พ่ายแพ้ไปก็ คือ บทสวดพาหุง หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า บทถวายพรพระ
คนสมัยโบราณจะออกรบข้าศึกจะสวดบทนี้เพื่อชนะศรัตรู

บทนี้มีความหมายโดยรวมคือพระพุทธเจ้าชนะเหล่าอธรรมทั้งหลายด้วยวิธีการต่างกัน เช่น ใช้ ปัญญา เมตตา ความอดทน อิทธิฤทธิ์ บารมี และใช้คำสอนชนะเหล่าหมู่อธรรมทั้งหลาย

บทสวดนี้ถ้าให้ดีต้องสวดติดต่อกันอย่างน้อย 7 วัน สวดเสร็จก็นั่งสมาธิ 10 นาทื แล้วแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรให้อโหสิกรรมต่อกัน รับรองว่า หลังจากนี้ชีวิตจะค่อยๆดีขึ้นๆและจะเข้าใจชีวิตดีขึ้นแน่นอน ( บทสวดพาหุงพร้อมคำแปลสามารถค้นได้จากgoogle)

4.มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ วันนี้ไม่ใช่วันของเราแต่วันพรุ่งนี้หรือวันต่อไป จะเป็นวันของเราแต่นอน

5.หาหนังสือดีๆที่ให้กำลังใจมาอ่าน อ่านแล้วคิดตาม ว่าจะพัฒนาชีวิตเราให้เจริญขึ้น หรือจะแก้ไขชีวิตอย่างไร

6. มีปัญหาทุกอย่าง อย่าหนีปัญหา พยายามทบทวนปัญหาหาสาเหตุของปัญหาว่ามาจากเหตุใดแล้วค่อยๆแก้ แก้ไปทีละน้อย หรือบางทีอาจต้องอาศัยเวลาช่วยแก้ ให้วันเวลาเป็นตัวทำลายปัญหาเอง อย่าลืมทุกปัญหามีทางออกเสมอ
by phutta chayantee

วิธีคลายเครียดและผ่อนคลายสมองที่ดีที่สุด

วิธีคลายเครียดและผ่อนคลายสมองที่ดีที่สุด

ในการวิจัยพบว่า ในการทำสมาธินั้นร่างกายจะหลั่งสารที่มีคลื่นเรียกว่า Theta โดยจะสัมพันธ์กับความการผ่อนคลาย ความคิดสร้างสรรค์ และการสร้างจินตภาพ

ขณะทำสมาธิจะรู้สึกผ่อนคลาย เบาสบาย  หายเครียด สมองจะได้รับการผ่อนคลายมากที่สุด ทำให้มีพลังมีความคิดสร้างสรรค์ 

การทำสมาธินั้นควรทำช่วง ก่อนนอน จะช่วยให้เราหลับสนิท พักผ่อนอย่างเต็มที่ และตอนเช้าหลังจากตื่นนอนแล้ว จะช่วยเพิ่มพลังสมอง มีความคิดสร้างสรรค์ดี กระปี้กระเป่า
 พร้อมสำหรับการทำงาน

วิธีทำสมาธิอย่างง่ายๆ คือ 
1. นั่งขัดสมาธิ นั่งตัวตรง หลับตา มือขวาทับมือซ้าย เท้าขวาทับเท้าซ้าย
2. หายใจเข้า นึกในใจว่า พุทธ หายใจออกนึกในใจว่าโธ นึกสบายๆ อย่าเกร็งอย่ารีบให้ทำสบายๆ

ทำอย่างนี้ต่อเนื่องอย่างน้อย 10 นาที  ทุกวัน ประมาณ 10 วัน แล้วลองสังเกตตัวเองว่า เป็นอย่างไรบ้าง
อารมณ์ดีขึ้นหรือไม่ ความเครียดหายไปหรือเปล่า ชีวิตดีขึ้นไหม..เราจะรู้ตัวเราเอง...ครับ... 
phuta... 

เหตุผล 3 ประการที่ชาวพุทธศรัทธาในพระพุทธเจ้า

เหตุผลที่ชาวพุทธศรัทธาในพระพุทธเจ้า

สาเหตุสำค้ญที่สุดคือ

1. พระพุทธเจ้า เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน หรือเรียกว่า ปัญญาธิคุณ รู้แจ้งในอริยสัจจ์ 4

     - เป็นผู้รู้ หมายถึงรู้แจ้งโลก รู้  อริยสัจจ์ 4 คือ ความจริง 4 ประการคือ

       ทุกข์   รู้ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ที่เรียกว่า ทุกข์
       
       สมุทัย รู้สาเหตุของความทุกข็์ ว่า สิ่งที่เป็นทุกข์ที่เกิดขึ้นกับตัว

เรามีสาเหตุมาจากอะไร

      นิโรธ  รู้ วิธีที่จะดับทุกข์ที่เกิดขึ้นอย่างไร
   
     มรรค  รู้ ข้อควรปฏิบัติให้หายจากความทุกข์

   -  เป็นผู้ตื่น หมายถึง ตื่นจาก อวิชชา คือความไม่รู้ทั้งปวง  ตื่นจาก

อกุศลมูลทั้งหลายคือ อโลภะ ไม่โลภ   อะโทสะ ไม่โกรธ อะโมหะ ไม่

หลงในกิเลส คือ รัก โลภ โกรธ หลง อีกต่อไป

- ผู้เบิกบาน หมายถึง พระองค์มีจิตใจเบิกบานแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา

 เพราะพระองค์ไกลจากกิเลศ คือ 

โลภ โกรธ หลง และพระองค์ไม่ยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งทั้งปวง เพราะสิ่งทั้งปวงคือ สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง

อนิจจัง มีความไม่เที่ยง ทุกขัง มีความทุกข์แฝงอยู่ อนัตตา สิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นล้วนไม่มีตัวตนที่แท้จริง

พระองค์ได้ปลงหมดแล้ว ภาระกิจที่พระองค์ทำได้ลุล่วงแล้ว คือนำธรรมะเผยแผ่แก่มวลมนุษย์ให้หลุด

พันจากวัฎฎะสงสาร ธรรมะของพระองค์ 84,000 พระธรรมขันธ์ได้เผยแผ่ให้ผู้มีสติปัญญาที่จะรับรู้ได้ ได้

ทรงถือปฏิบัติแล้ว ดังนั้นพระองค์จึ่งมีจิตใจเบิกบาน พระทัยของพระองค์ปราศจากกิลสทั้งปวงแล้ว

2. พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้มีพระ มหากรุณาธิคุณ หมายถึง

พระองค์เป็นผู้มีความรัก ความเมตตา มีความกรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้ง

หลาย คิดช่วยให้พ้นทุกข์  ช่วยให้พ้นวัฎฎะสงสาร ไม่เกิด แก่ เจ็บ

ตายอีกต่อไป พระองค์ช่วยให้จิตใจของมนุษย์ปราศจากความเศร้า

หมองอีกต่อไป 

3. พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้มี พระ บริสุทธิคุณ หมายถึงพระองค์เป็น

ผู้มีศีลบริสุทธิ์ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ปรารถนาให้ผู้อื่นเห็นธรรม พ้นทุกข์

ดังนั้น ข้อสงสัยในความบริสุทธิ์ในศีลของพระองค์จึงไม่มีอีกต่อไป

        ดังนั้นจึงสรุปถึงคุณของพระพุทธเจ้าได้ 3 อย่าง คือที่ชาวพุทธ

รัก ศรัทธา ในพระพุทธเจ้าคือ

พระปัญญาธิคุณ พระองค์เป็นผู้มีปัญญารู้แจ้ง

พระกรุณาธิคุณ  พระองค์เป็นผู้มีความกรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้งมวล

พระบริสุทธิคุณ  พระองค์เป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ปราศจากมลทินความเศร้า

หมองอีกต่อไป


                       จำหน่ายที่นอนในรถ ราคา 2,200 บาท

เบาะนอนเป่าลมในรถ ปรับเบาะหลังรถของคุณให้


เป็นเตียงนอนได้สบายๆ ใช้ได้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่

 ดูสินค้าบนเวบไซต์


ได้ที่http://www.baulomyang.blogspot.com/